ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่สำคัญสำหรับผู้ประกันตนทุกคน โดยการตรวจสุขภาพเป็นประจำเป็นการป้องกัน และคัดกรองโรคในระยะเริ่มต้น ทำให้สามารถรักษาและป้องกันการเกิดโรคร้ายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสำนักงานประกันสังคมกำหนดรายการตรวจสุขภาพฟรีที่ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการได้ พร้อมรายชื่อโรงพยาบาล และเงื่อนไขการเข้ารับบริการในปี 2567
รายการตรวจสุขภาพ สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 มีอะไรบ้าง?
ในปี 2567 ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 ของระบบประกันสังคมได้รับสิทธิ์ในการตรวจสุขภาพประจำปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง และโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมกับสำนักงานประกันสังคม โดยสามารถเข้ารับบริการตรวจสุขภาพพื้นฐานและตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันโรคทั้งหมด 14 รายการได้ฟรี ดังนี้
- ตรวจคัดกรองการได้ยิน Finger Rub Test
- ตรวจเต้านม และสอนการตรวจเต้านมด้วยตัวเอง
- ตรวจตา คัดกรองความผิดปกติและค้นหาโรคทางสายตา
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC
- ตรวจปัสสาวะ UA
- ตรวจน้ำตาลในเลือด FBS
- ตรวจการทำงานของไต Cr และ eGFR
- ตรวจไขมันในเลือดชนิด Total cholesterol & HDL cholesterol
- ตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบ HBsAg
- ตรวจมะเร็งปากมดลูก Pap Smear
- ตรวจมะเร็งปากมดลูก Via
- ตรวจ HPV DNA TEST ชนิด 2 สายพันธุ์ และ 14 สายพันธุ์
- ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง FIT TEST
- เอกซเรย์ปอด Chest X-ray
ก่อนตรวจสุขภาพประกันสังคมฟรี ตรวจที่ไหนได้บ้าง?
ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการตรวจสุขภาพฟรีได้ที่สถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการกับประกันสังคม ซึ่งมีให้บริการทั้งหมด 217 แห่งทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐ 163 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชน 54 แห่ง สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม https://www.sso.go.th หรือสอบถามจากสายด่วนประกันสังคม 1506
ก่อนตรวจสุขภาพประจำปี ต้องเตรียมตัวอย่างไร
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นขั้นตอนสำคัญ เนื่องจากการเตรียมตัวที่ถูกต้อง จะทำให้ได้ผลการตรวจที่ค่อนข้างแม่นยำ โดยสามารถเตรียมตัวได้ดังนี้ :
1.พักผ่อนให้เพียงพอ
ก่อนวันตรวจสุขภาพ ควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
2.งดอาหารและเครื่องดื่ม
งดอาหารและเครื่องดื่มเป็นเวลา 8-10 ชั่วโมง และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท อย่างน้อย 24 ชั่วโมง พร้อมหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานและไขมันสูง
3.เตรียมเอกสารแสดงโรคประจำตัว
หากมีโรคประจำตัว ควรนำยาและใบรับรองอาการป่วยไปแสดงแก่แพทย์ผู้ตรวจสุขภาพ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ผลตรวจร่างกายด้วย
4.สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม
เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมซึ่งสะดวกต่อขั้นตอนการตรวจ เช่น การเจาะเลือดที่ข้อพับแขน หรือการเอ็กซ์เรย์ปอด
5.แจ้งอาการทางสุขภาพก่อนการตรวจ
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ควรแจ้งแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ก่อนทำการตรวจทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อครรภ์ ผู้ที่มีประจำเดือนควรหลีกเลี่ยงการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งรังไข่ รวมถึงการตรวจปัสสาวะ
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถเข้าร่วมรับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง และโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมกับสำนักงานประกันสังคม หรือเข้ารับบริการของกระทรวงสาธารณสุขจัดบริการตรวจสุขภาพเชิงรุกแก่ผู้ประกันตนในสถานประกอบการ ได้เช่นกัน
ที่มา : https://www.sso.go.th/